วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จะเล่าอะไรให้ฟัง


ฉันจะเล่าอะไรให้ฟัง

อยู่ ๆ ก็อยากจะเขียนบทความก็เลยคิดชื่อบทความว่า

“ผู้หญิง กลางคืน”

พูดถึงเรื่องของ “เงิน” ทุกคนก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “เงิน” คือ “ พระเจ้า”  ที่สามารถเนรมิต หลายสิ่งหลายอย่างขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะคนจน หรือ คนรวย ต่างไม่เคยที่จะหยุดเสาะแสวงหาเงินเลยและก่อนที่จะได้มาซึ่งของมีค่าที่เรียกว่า เงิน นี้บางคนอาจได้มองอย่างง่ายดายไม่ต้องลงแรงอะไรมาก แต่สำหรับหลาย ๆ คน เน้นย้ำว่า หลาย ๆ คน ต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองได้พบกับพระเจ้าที่เรียกว่าเงิน ต้องอดหลับอดนอนใช้ชีวิตผิดไปจากธรรมชาติจากความจริงที่ว่าหาเช้ากินค่ำ บางคนกลับต้อง หาค่ำกินเช้า นอนในเวลาที่คนอื่นทำงานและทำงานในเวลาที่คนอื่นนอน ส่วนมากจะเป็นอาชีพที่ให้บริการหรือทีหลาย ๆ คน เรียกกันว่า “ทำงานกลางคืน”                       

“งานกลางคืน” มักจะถูกมองว่า เป็นการทำงานที่ผิดศีลธรรม ผู้หญิงกลางคืนที่กล่าวถึงนี้ เธอจะมีเวลาที่จะออกมาทำงานตรงกันเป็นประจำในแต่ละวันเสื้อผ้าหน้าผมของเธอจะต้องรวบผมตึงใส่หมวกสีขาวเธอแต่กายด้วยเสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน ทุกอย่างจะต้องพร้อมและดูดีทุกวัน เวลาที่จะเห็นเธอจะต้องเป็นเวลาที่มืดค่ำ หลังจากหกโมงเย็นจะเห็นเธอเดินออกมาจากปากซอยมายืนอยู่ริมถนน
มีหลายครั้งที่มีโอกาส ได้ทักทายเธอเวลาที่เดินผ่านเธอยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่บ่งบอกถึงการต้อนรับแขกเป็นอย่างยิ่งหลายครั้งที่คิดในใจว่า อยากจะเข้าไปใช้บริการเธอแต่ก็ได้แค้ยิ้มตอบกลับไป เหตุการณ์ก็เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง เคยได้มีโอกาสกลับมาคิดว่าทำไม?เธอถึงมาทำงานแบบนี้ ทำไม? เธอไม่ไปเรียนต่อ ทั้ง ๆ ที่ดูจากใบหน้าแล้วอายุเธอก็ยังน้อย และก็ไม่ได้ ขี้ริ้ว ขี้เหร่ อะไร  หากเรียนจบอาจไม่ต้องมาทำงานนี้ก็ได้ แต่จะว่าไปถ้าเธอเลือกได้ก็คงอยากเรียนให้จบมีงานทำที่ดีกว่านี้ไม่มาทำงานแบบนี้แน่ ๆ ตั้งแต่ได้ย้ายมาอยู่หอพักที่นี้ เกือบจะครบสามปี เธอยังคงทำงานนี้มาตลอด หลายครั้งที่กลับจาก ทำธุระ ดึก ๆ ยังคงเห็นเธอยืนอยู่ริมถนน ตีหนึ่งก็แล้ว ตีสองก็แล้วเธอยังคงยิ้มมีคนแวะเวียนมาคุยกับเธอไม่ขาดสาย แต่ถึง     อย่างไรงานที่เธอทำก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร เธอหาเงินด้วยตัวของเธอเองอาจจะต้องแลกมาด้วยความยากลำบาก
จะว่าไปเคยคิดหลายครั้งว่าจะลองไปใช้บริการเธอ และแล้วโอกาสก็มาถึง วันนั้นเป็นที่ต้องทำกิจกรรมที่มหาลัยและต้องหลับหอดึก เวลาประมาณตีหนึ่งเห็นจะได้พอลงจากแท็กซี่ ยืนอยู่ข้างถนน ด้วยความเคยชินเราก็ยิ้มให้แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปหาเธอแล้วได้พูดคุยกับเธอทักทายเหมือนคนที่รู้จักกันมานาน ขออะไรเธอ เธอให้ทุกอย่างไม่มีขัดแม้แต่ข้อเดียว เธอให้บริการอย่างเต็มใจด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ซึ่งเมื่อได้ลองครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าติดใจ จนต้องกลับมาหาเธออีกหลายๆครั้ง ทุกครั้งที่กลับดึก เป็นต้องแวะไปหาเธอทุกครั้ง ที่สำคัญค่าบริการในแต่ละครั้งก็เป็นราค่าทั่วไปไม่แพงเลย เธอคิดแค่.... ชามละสามสิบบาทเท่านั้นซึ่งเหมือนกับร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไปที่จริงแล้วอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เธอชอบไม่เคยคิดว่าจะต้องเขินอายที่จะทำเป็นอาชีพของคนที่ทำงานกลางคืนที่สุจริตไม่เบียนเบียนใครเธอเอารายได้มาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว ถือได้ว่าเธอเป็น “ผู้หญิงกลางคืน” คนหนึ่งที่อย่างน้อยก็สามารถดูแลตัวเองได้
ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน หรือ กลางคืน ขอแค่เป็นอาชีพที่สุจริตไม่ทำร้ายคนอื่นเพียงเท่านี้ ชีวิตก็ดูมี่คุณค่าขึ้นมาได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น