มหาวิทยาลัยคู่ขวัญของสวนสุนันทาครับ คือ "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต" ซึ่งเก่าแก่ไม่แพ้กัน
มีเรื่องเล่าว่า ตึกเรียนรวม อาคาร 11 ซึ่งนักศึกษาแทบทุกคนจะต้องมีโอกาสได้แวะเวียนไปเรียน
ที่นั่น มีเรื่องเล่าจากศิษย์เก่าให้ฟังว่า ตึกนี้ขณะ ที่ก่อสร้าง
มีคนงานตกลงมาเสียชีวิตระหว่างนั่งอยู่ที่ระเบียง ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก
ถึงขั้นต้องจ้างบริษัทก่อสร้างใหม่เข้ามาทำงานต่อ แต่เมื่อทำถึงชั้น 5 ต้องเปลี่ยนบริษัทกันใหม่อยู่หลายบริษัทจึงจะสร้างเสร็จ
"ดังนั้น จะพบว่า ตั้งแต่บันไดชั้น 5 ขึ้นไป ความกว้างของขั้นบันไดจะแคบลงเรื่อยๆ ทางขึ้นจะชันมาก"
หรือที่ตั้งของสำนักโพลชื่อดัง "สวนดุสิตโพล" ซึ่งเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สีเขียวอ่อน แต่หากสังเกตดีๆ ที่ด้านข้างใกล้ฟุตปาธ จะมีลูกกรงเหล็กอยู่ มีเรื่องเล่าลือต่อๆ กันมาว่า อาคารนี้เคยใช้เป็นคุกเก่าสำหรับขังนัก โทษ และว่ากันว่าหากใครคิดหรือทำอะไรผิด มาเดินผ่านแถวนี้จะเห็นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ แถวนี้
เช่นเดียวกันที่อาคาร 1 ตึกศิลปกรรม ซึ่งเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ขวางประตูทางเข้า ประตู 1 ซึ่งอดีตเป็นหอสำหรับเล่นดนตรี ไทยของชาววัง เล่าต่อกันว่ากลางค่ำกลางคืนใครเดินผ่านไปมามักจะได้ยินเสียงดนตรีไทยลอยมา
และที่บ่อน้ำหน้าโฮมเบเกอรี่ ซึ่งขนานกับตึก 1 ว่ากันว่ามักจะมีเต่ามาเดินเล่นให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่า ใครเผลอไปทัก ดีไม่ดีจะเรียนไม่จบเอาง่ายๆ
นอกจากนั้นยังมีศาลพระภูมิประจำสถาบัน หรือที่เรียกกันว่า ศาลพ่อปู่ ที่นักศึกษาใหม่ ทุกรุ่นจะต้องไปเคารพสักการะ เชื่อกันว่า หากนักศึกษาคนใดต้องการที่พึ่งพิงทางใจในเรื่องต่างๆ สามารถมาขอกับพ่อปู่ได้ แต่มีคำเตือนห้อยท้ายว่า "ห้ามบน"
"ดังนั้น จะพบว่า ตั้งแต่บันไดชั้น 5 ขึ้นไป ความกว้างของขั้นบันไดจะแคบลงเรื่อยๆ ทางขึ้นจะชันมาก"
หรือที่ตั้งของสำนักโพลชื่อดัง "สวนดุสิตโพล" ซึ่งเป็นเรือนไม้ชั้นเดียว สีเขียวอ่อน แต่หากสังเกตดีๆ ที่ด้านข้างใกล้ฟุตปาธ จะมีลูกกรงเหล็กอยู่ มีเรื่องเล่าลือต่อๆ กันมาว่า อาคารนี้เคยใช้เป็นคุกเก่าสำหรับขังนัก โทษ และว่ากันว่าหากใครคิดหรือทำอะไรผิด มาเดินผ่านแถวนี้จะเห็นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ แถวนี้
เช่นเดียวกันที่อาคาร 1 ตึกศิลปกรรม ซึ่งเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ขวางประตูทางเข้า ประตู 1 ซึ่งอดีตเป็นหอสำหรับเล่นดนตรี ไทยของชาววัง เล่าต่อกันว่ากลางค่ำกลางคืนใครเดินผ่านไปมามักจะได้ยินเสียงดนตรีไทยลอยมา
และที่บ่อน้ำหน้าโฮมเบเกอรี่ ซึ่งขนานกับตึก 1 ว่ากันว่ามักจะมีเต่ามาเดินเล่นให้เห็นอยู่บ่อยๆ แต่เชื่อว่า ใครเผลอไปทัก ดีไม่ดีจะเรียนไม่จบเอาง่ายๆ
นอกจากนั้นยังมีศาลพระภูมิประจำสถาบัน หรือที่เรียกกันว่า ศาลพ่อปู่ ที่นักศึกษาใหม่ ทุกรุ่นจะต้องไปเคารพสักการะ เชื่อกันว่า หากนักศึกษาคนใดต้องการที่พึ่งพิงทางใจในเรื่องต่างๆ สามารถมาขอกับพ่อปู่ได้ แต่มีคำเตือนห้อยท้ายว่า "ห้ามบน"
ขอบคุณข้อมูลจาก forum.thaidvd.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น